
1. คนยิวเชื่อว่าความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนชาวกรีกคิดว่าความรู้สำคัญที่สุด
2. คนยิวเชื่อว่าความจริงเป็นรูปธรรมและทุกคนควรนำไปปฏิบัติ ส่วนชาวกรีกคิดว่าความจริงเป็นนามธรรมและเรื่องส่วนตัว
3. คนยิวเชื่อว่าความจริงถูกเปิดเผยและรับรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนชาวกรีกคิดว่าการค้นพบครั้งแรกก็เปลี่ยนอะไรๆได้ยากเย็น
4. คนยิวเชื่อว่าพระเจ้าเป็นแหล่งและผู้เปิดเผยปัญญาทั้งสิ้น ส่วนชาวกรีกคิดว่าปัญญาถูกค้นพบด้วยตัวมนุษย์เอง
5. คนยิวเชื่อว่าศรัทธาความเชื่อและการวางใจเป็นสิ่งจำเป็น ส่วนชาวกรีกคิดว่าการพิสูจน์และประสบการณ์เชิงประจักษ์สำคัญ
6. คนยิวเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ส่วนชาวกรีกเชื่อว่าต้องพิสูจน์ได้หรือไม่ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
7. คนยิวมุ่งที่มีสัมพันธภาพกับพระเจ้า “พระบิดา” ส่วนชาวกรีกมุ่งรับรู้แค่พระลักษณะของพระเจ้าเท่านั้น
8. คนยิวเชื่อว่าอาณาจักรของพระเจ้าเริ่มตั้งแต่บนโลกขณะนี้ ส่วนชาวกรีกคิดว่าไม่เกี่ยวกับชีวิตบนโลกใบนี้
9. คนยิวเชื่อว่าชีวิตนิรันดร์เริ่มต้นเดี๋ยวนี้โดยมีสัมพันธภาพกับพระเจ้า ส่วนชาวกรีกคิดว่าชีวิตนิรันดร์เริ่มหลังจากตายไปแล้ว
10. คนยิวมีการคบหาสมาคมกับผู้อื่น ส่วนชาวกรีกมุ่งที่เรื่องส่วนตัว
11. คนยิวมีกระบวนการคิดที่ว่า ฉันต้องเรียนรู้ให้เพียงพอจึงจะตอบสนองและกระทำตาม ส่วนชาวกรีกคิดว่า “ให้ฉันคิดและสัมผัสก่อน และถ้าไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ฉันจะสับสนและเคลื่อนต่อไปไม่ได้”
12. คนยิวเห็นคุณค่าของข้อล้ำลึก ส่วนชาวกรีกเห็นความสำคัญของข้อเท็จจริงและความรู้ ไม่พยายามรับรู้ข้อล้ำลึก
13. คนยิวเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติและโลกที่มองไม่เห็น ส่วนชาวกรีกเชื่อในสิ่งที่สัมผัสจับต้องได้โดยประสาทสัมผัส
14. คนยิวเชื่อในเรื่องสงครามฝ่ายวิญญาณ ส่วนคนกรีกคิดว่ามันเป็นเรื่องงมงาย
15. คนยิวเน้นการพึ่งพาอาศัยกัน ส่วนชาวกรีกเป็นเอาแค่ตนเองพอใจ
16. คนยิวทำตามในสิ่งพระอาจารย์ทำและเป็นเหมือนกับเขา ส่วนชาวกรีกแค่รับรู้และไม่ต้องการเป็นเหมือนกับอาจารย์ของเขา